วิธีการทำโฆษณา

“Pay per Sale” คืออะไร?

1. เพื่อรองรับความต้องการของผู้ขายในการสร้างความเชื่อมั่นที่มากยิ่งขึ้น ดึงดูดงบประมาณการโฆษณาที่สูงขึ้น และเพิ่มรายได้จากโฆษณา ระบบ “Pay per Sale” จึงได้รับการนำเสนอภายใต้ฟีเจอร์ GMV Max Custom ROAS สำหรับผู้ขายและรายการสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. โดยการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของระบบ “Pay per Sale” เพื่อโปรโมตผ่านฟีเจอร์ GMV Max Custom ROAS ผู้ขายจะชำระค่าโฆษณาเฉพาะเมื่อมีการสั่งซื้อเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมค่าใช้จ่ายตามเป้าหมาย ROAS ที่กว้างขึ้น และส่งเสริมการเติบโตของมูลค่าการขาย (GMV) ที่มาจากโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของ “Pay per Sale”

1. การรับประกันการทำผลตอบแทนจากโฆษณา (ROAS)

ด้วยรูปแบบ “Pay per Sale” ผู้ขายจะถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเฉพาะเมื่อมีออเดอร์ที่สำเร็จเท่านั้น ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่า บรรลุอัตราผลตอบแทนจากโฆษณา (ROAS) ได้ 100% ทำให้ผู้ขายสามารถกำหนดต้นทุนได้แน่นอนและขจัดการใช้จ่ายโฆษณาที่สูญเปล่า

1. เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งบการตลาด

การกำจัดค่าใช้จ่ายโฆษณาจากการคลิกที่ไม่ส่งผลต่อยอดขายโดยตรง ทำให้ "Pay per Sale" จะช่วยให้งบการตลาดของคุณถูกใช้ไปกับออเดอร์ที่สร้างรายได้จริงเท่านั้น ช่วยลดงบโฆษณาสูญเปล่า และเพิ่มการเติบโตของ GMV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เกณฑ์การเข้าร่วม “Pay per Sale” 

1. สินค้าที่มียอดออเดอร์เฉลี่ยเกิน 10 ออเดอร์ต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
2. ผู้ขายที่มีงบประมาณเพียงพอ โดยต้องไม่น้อยกว่า 30 เท่าของต้นทุนเฉลี่ยต่อออเดอร์

วิธีอัปเกรดแคมเปญ GMV Max Custom ROAS ที่มีสิทธิ์ เป็นแคมเปญแบบ 'Pay per Sale’

ที่หน้าแรกของโฆษณา > รายการโฆษณา :

1.) เข้าไปที่ Shopee Ads: จากหน้าแรกของ Shopee Seller Center ให้ไปที่ Marketing Center และเลือก Shopee Ads

2.) อัปเกรดสินค้าที่มีอยู่: หาป้ายสีน้ำเงินแล้วคลิก "เปิดใช้งานตอนนี้"

3.) ปรับงบประมาณ: ยืนยันการปรับงบประมาณสำหรับแต่ละสินค้าและอัปเกรดเป็น “Pay per Sale” โดยการคลิก “เปิดใช้งาน”

4.) อัปเกรดสำเร็จ: ระบบจะแสดงแถบสีเขียวเพื่อยืนยันว่าแคมเปญได้อัปเกรดเป็น “Pay per Sale” เรียบร้อยแล้ว

ไปที่หน้ารายละเอียดโฆษณา :

1.) เข้าสู่ Shopee Ads: จากหน้าแรกของ Shopee Seller Center ให้ไปที่เมนู Marketing Center และเลือก Shopee Ads

2.) เลือกสินค้า: เลือกสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข จากนั้นคลิก “รายละเอียด” เพื่อเข้าสู่หน้ารายละเอียดโฆษณา

3.) เปิดใช้งานสินค้าที่มีอยู่: ค้นหาแถบข้อความสีน้ำเงิน แล้วคลิก “เปิดใช้งานตอนนี้”

4.) ปรับงบประมาณ: ตรวจสอบและยืนยันการปรับงบประมาณสำหรับสินค้า และดำเนินการอัปเกรดเป็น “Pay per Sale” โดยคลิก “เปิดใช้งาน”

5.) อัปเกรดสำเร็จ: ระบบจะแสดงแถบข้อความสีเขียว เพื่อยืนยันว่าแคมเปญได้อัปเกรดเป็น “Pay per Sale” เรียบร้อยแล้ว

วิธีตั้งค่าแคมเปญ “Pay per Sale” ใหม่ สำหรับสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข

1.) เข้าสู่ Shopee Ads: จากหน้าแรกของ Shopee Seller Center ให้ไปที่เมนู Marketing Center และเลือก Shopee Ads

2.) สร้างโฆษณาสินค้า: คลิกที่ “สร้างโฆษณาใหม่” และเลือก “โปรโมตสินค้าของฉัน”

3.) การเลือกสินค้า: เลือก “เลือกสินค้าด้วยตนเอง” เป็นวิธีการเลือก และดำเนินการเลือกสินค้าที่มีแท็ก “Pay per Sale” ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข

4.) กลยุทธ์การประมูล: เลือก “GMV Max Custom ROAS” เป็นวิธีการประมูล และตั้งค่า ROAS เป้าหมายภายในช่วงที่แนะนำ

5.) งบประมาณ: ตั้งค่าเป็น “ไม่จำกัด” ซึ่งเป็นการตั้งงบประมาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแคมเปญ “Pay per Sale”

หากค่าของงบประมาณที่ป้อนต่ำกว่าค่างบประมาณขั้นต่ำเริ่มต้น แคมเปญจะยังคงเป็นแคมเปญแบบ CPC

6.) เผยแพร่แคมเปญ: คลิกที่ “เผยแพร่” เพื่อเปิดใช้งานแคมเปญ “Pay per Sale”

วิธีการแก้ไขงบประมาณ / ROAS เป้าหมาย ของแคมเปญ “Pay per Sale”

ทำการปรับงบประมาณแบบกลุ่ม/เดี่ยวที่หน้าแรกของโฆษณา > รายการโฆษณา 

1.) เข้าสู่ Shopee Ads: จาก Shopee Seller Center ให้ไปที่ Marketing Center และเลือก Shopee Ads

เลือกสินค้า: เลือกสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขแบบกลุ่ม/เดี่ยวที่มีแท็ก “Pay per Sale”

2.) เปลี่ยนงบประมาณ: คลิกที่ “เปลี่ยนงบประมาณ” / “งบประมาณ” และทำการแก้ไขงบประมาณแบบกลุ่ม/เดี่ยว

(batch edit)

(simple edit)

หมายเหตุ: การลดงบประมาณได้เพียงวันละหนึ่งครั้งต่อสินค้าหนึ่งรายการ และการปรับงบประมาณสามารถปรับได้สูงสุดไม่เกิน 20% ของมูลค่าเดิม

3.) ยืนยันการเปลี่ยนแปลง: คลิกที่ “ยืนยัน” และทำการปรับงบประมาณแบบกลุ่ม/เดี่ยวให้สำเร็จ

แก้ไขงบประมาณหรือ ROAS เป้าหมายที่หน้ารายละเอียดโฆษณา 

1.) เข้าสู่ Shopee Ads: จาก Shopee Seller Center ให้ไปที่ Marketing Center และเลือก Shopee Ads

2.) เลือกสินค้า: เลือกสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขและมีแท็ก “Pay per Sale” แล้วคลิกที่ “รายละเอียด” เพื่อเข้าสู่หน้ารายละเอียดโฆษณา

3.) เปลี่ยนงบประมาณ/ROAS เป้าหมาย: คลิกที่ส่วน “งบประมาณ” / “ROAS เป้าหมาย” และทำการแก้ไขงบประมาณ/ROAS เป้าหมาย

（Change budget）

（Change ROAS Target）

4.) ยืนยันการเปลี่ยนแปลง: คลิกที่ “ยืนยัน” / “เผยแพร่” เพื่อทำการปรับงบประมาณ/ROAS เป้าหมายให้สำเร็จ

ดูประสิทธิภาพของแคมเปญ “Pay per Sale” ได้ที่ไหน?

1. ดูประสิทธิภาพของ “Pay per Sale” ได้ที่หน้าแรกของโฆษณา (Ads Homepage) และหน้ารายละเอียดโฆษณา (Ads Detail Page)

เกิดอะไรขึ้นหากแคมเปญ “Pay per Sale” ที่กำลังดำเนินการไม่ตรงตามเกณฑ์การเข้าร่วม?

1. หากแคมเปญ “Pay per Sale” ที่กำลังดำเนินการไม่ตรงตามเกณฑ์ เช่น ไม่สามารถทำยอดสั่งซื้อเฉลี่ย 10 รายการต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ระบบจะทำการวิเคราะห์โฆษณาและแนะนำให้ผู้ขายเปลี่ยนกลับไปใช้แคมเปญแบบ CPC

1. หากผู้ขายไม่เปลี่ยนกลับไปใช้แคมเปญแบบ CPC อาจทำให้ศักยภาพในการแปลงยอดขายไม่ได้รับการใช้ประโยชน์สูงสุด