วิธีการทำโฆษณา
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าและจัดการโฆษณาของคุณ
ตามค่าเริ่มต้น ทุกแคมเปญที่สร้างโดยเลือกสินค้าด้วยตนเอง (Manual Product Selection) และใช้โมเดล GMV Max จะเป็น GMV Max โดยผู้ขายสามารถเลือกกำหนดเป้าหมาย ROAS ได้ทั้งแบบ GMV Max Auto Bidding หรือ GMV Max Custom ROAS อย่างไรก็ตาม สินค้า 1 รายการจะไม่สามารถรันได้ทั้ง 2 รูปแบบพร้อมกัน ต้องเลือกใช้วิธีการเสนอราคาที่เหมาะสมตามความพร้อมของสินค้าและวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา
GMV Max Auto Bidding : ระบบจะเป็นผู้ปรับการทำงานและประสิทธิภาพของโฆษณาให้โดยอัตโนมัติ
GMV Max Custom ROAS : ผู้ขายสามารถกำหนดเป้าหมาย ROAS สำหรับสินค้านั้น ๆ ได้เอง ทำให้สามารถควบคุมทิศทางและคาดการณ์ผลตอบแทนจากการโฆษณาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสขยายศักยภาพยอดขายได้มากขึ้นจากการเข้าถึงทราฟฟิกที่หลากหลายกว่า
GMV Max Auto Bidding เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มยอดขายสูงสุดโดยอัตโนมัติ โดยไม่กำหนดค่า Target ROAS เฉพาะเจาะจง
หากต้องการเพิ่มยอดขายสูงสุด พร้อมทั้งรักษาเป้าหมาย ROAS ตามที่กำหนดไว้ แนะนำให้ใช้ GMV Max Custom ROAS เป็นฟีเจอร์สำหรับแคมเปญ
GMV Max ช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงทราฟฟิกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการแสดงสินค้าให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเห็น และช่วยขยายศักยภาพการสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
GMV Max จะแสดงโฆษณาผ่านฟีดบนทราฟฟิกทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ซึ่งครอบคลุมทั้งพื้นที่ Search, Discovery, Video, Games และ Coins โดยผู้ขายไม่สามารถเลือกตำแหน่งในการแสดงโฆษณาได้เอง อย่างไรก็ตาม ระบบจะทำการปรับแต่งและเลือกตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย GMV Max ที่ตั้งไว้
ค่าการแนะนำ ROAS จะถูกปรับเฉพาะตามสินค้าที่เลือก โดยคำนวณจากข้อมูลเชิงแข่งขันของสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันภายใน Shopee รวมถึงพิจารณาจากประสิทธิภาพการขายย้อนหลังของตัวสินค้าและร้านค้าในการเสนอค่า Target ROAS ที่เหมาะสม
ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ขายใช้ค่าการแนะนำ ROAS ตามที่ระบบ Shopee กำหนดให้มากที่สุด เนื่องจากจากการเปรียบเทียบข้อมูลตลาดโดยรวม พบว่าผู้ขายที่เลือกใช้ค่า ROAS ตามที่ระบบแนะนำมักจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า ทั้งในด้านจำนวนทราฟฟิกและยอดสั่งซื้อเมื่อเทียบกับผู้ขายที่ไม่ได้ใช้ค่าที่แนะนำ
ผู้ขายสามารถกำหนดค่า Custom ROAS ได้ โดยควรอ้างอิงจากผลลัพธ์ ROAS ย้อนหลังของสินค้านั้นเป็นค่าพื้นฐานเริ่มต้นในการตั้งเป้าหมาย ROAS ใหม่ ทั้งนี้ โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ผู้ขายตั้งเป้าหมาย ROAS สูงกว่าค่าที่ระบบ Shopee แนะนำไว้เกิน 25%
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขายตั้งค่า ROAS ที่สูงเกินความเป็นจริง ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อพบว่าค่าที่กำหนดสูงกว่าค่าที่แนะนำอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อผู้ขายตั้งเป้าหมาย ROAS ในระดับสูง ระบบจะมีการควบคุมการใช้จ่ายอย่างเข้มงวดมากขึ้น และ GMV Max จะคัดเลือกพื้นที่แสดงโฆษณาอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพต่อยอดขายมากกว่าปริมาณส่งผลให้การใช้จ่ายถูกจำกัดลง และจำกัดศักยภาพในการสร้างยอดขายรวมของสินค้านั้น
ตัวอย่างเช่น
หากผู้ขายตั้งเป้า ROAS ที่ระดับ 14 ขณะที่ค่า ROAS เฉลี่ยที่ทำได้อยู่ที่ 10 ระบบ GMV Max จะทำงานอย่างระมัดระวังและคัดเลือกพื้นที่แสดงผลมากขึ้น เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย ROAS ที่สูงกว่าเดิมได้ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการแสดงโฆษณาและยอดเข้าชมลดลงตามไปด้วย และจำกัดโอกาสในการขยายยอดขายรวมของสินค้า
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเปิดใช้งาน GMV Max ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับทราฟฟิกหรือยอดสั่งซื้อในปริมาณสูงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากระบบจะให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ROAS ที่ตั้งไว้เป็นหลัก
สำหรับรายการสินค้าทั่วไป เช่น สินค้าใหม่ สินค้าที่มีกระบวนการตัดสินใจซื้อใช้เวลานาน หรือสินค้าที่มีงบประมาณโฆษณาต่ำ แนะนำให้ใช้การประมูลแบบ Auto Bidding เป็นหลัก เพื่อให้ระบบสามารถนำข้อมูลความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไปปรับแต่งช่วง ROI ที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการสร้างทราฟฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Shopee จะมีการเสนอค่า Target ROAS ให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับ เพื่อให้ผู้ขายสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม หากค่าที่แนะนำยังต่ำกว่าระดับที่ต้องการ ผู้ขายสามารถตั้งค่า Custom ROAS สำหรับแคมเปญได้ โดยสามารถดูแนวทางการตั้งค่า ROAS เป้าหมายในระดับที่เหมาะสมได้จากหัวข้อที่ 2 ข้างต้น
แนะนำให้ประเมินประสิทธิภาพในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โดยสังเกตผลการดำเนินงานรวมในช่วง 7-14 วัน และไม่ควรตัดสินใจจากความผันผวนของข้อมูลรายวัน โดยปกติแล้ว หลังจากเปิดใช้งานแคมเปญประมาณ 7 วัน ค่า ROAS ที่ทำได้จริงจะอยู่ในช่วง 80%-120% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้
หากผลลัพธ์ยังต่ำกว่าที่คาดไว้อย่างต่อเนื่อง ผู้ขายควรพิจารณาปรับตามสถานการณ์จริง ดังนี้
1) หลีกเลี่ยงการปรับ ROI บ่อยเกินไป: ควรจำกัดการปรับอยู่ที่ 1-2 ครั้งต่อวัน โดยแต่ละครั้งไม่ควรเพิ่มหรือลดเกิน 20% เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการทำงานของระบบ
2) ในช่วงโปรโมชั่น การปรับลดค่า ROI เป้าหมายลง จะช่วยกระตุ้นการเข้าชมและเพิ่มจำนวนคำสั่งซื้อได้มากขึ้น ทั้งนี้ ควรควบคุมความถี่และขนาดของการปรับให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
GMV Max สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งกับสินค้าประเภทใหม่และสินค้าหลัก โดยแนะนำให้เปิดใช้งานการโปรโมตแบบครอบคลุมทุกสินค้าบนแพลตฟอร์ม (ทั้งสินค้าหลัก/สินค้าทั่วไป/สินค้าใหม่) เพื่อรับประโยชน์จากทราฟฟิกบนแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่
ผู้ขายสามารถตั้งค่า GMV Max ให้กับสินค้าใด ๆ ได้ แม้ว่าสินค้านั้นจะมีโฆษณาอยู่
หากช่วงระยะเวลาแคมเปญของโฆษณาที่เปิดอยู่มีการทับซ้อนกัน ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือนให้ผู้ขายทราบว่า การเปิดใช้งาน GMV Max จะทำให้โฆษณาที่เปิดอยู่ของสินค้าดังกล่าวถูกหยุดโดยอัตโนมัติ
สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยกดปุ่ม “อัปเกรดเป็น GMV Max” ในหน้า Ads Listing ของแคมเปญนั้น
Entrypoint via Ads Listing Page
Entrypoint via Ads Detail Page
ผู้ขายสามารถปิดการใช้งาน GMV Max ได้โดยการกดหยุด หรือยกเลิกการตั้งค่าแคมเปญนั้น หลังจากนั้นผู้ขายสามารถสร้างโฆษณาใหม่สำหรับสินค้าดังกล่าวได้ตามต้องการ
สินค้าบางรายการอาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยในการโฆษณาของแต่ละประเทศ (เช่น หมวดหมู่ “สินค้าสำหรับผู้ใหญ่”) โดยแม้ว่าสินค้าดังกล่าวจะสามารถลงโฆษณาผ่าน GMV Max ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เป็นต้นไป แต่อาจมีการจำกัดการแสดงผลของโฆษณา ตามข้อกำหนดท้องถิ่นที่บังคับใช้อยู่
ระบบ GMV Max Auto Bidding จะประเมินผลลัพธ์เบื้องต้นแตกต่างกันไปตามงบประมาณที่กำหนดในแคมเปญ โดยระบบจะคำนวณช่วง ROAS ที่เป็นไปได้จากประวัติผลลัพธ์ ROAS ของสินค้านั้น ๆ และประสิทธิภาพระดับร้านค้าในปัจจุบันภายใต้งบประมาณที่ระบุ หากกำหนดงบประมาณต่ำ อาจส่งผลให้มูลค่า GMV ต่ำลง และจำกัดโอกาสในการสร้าง ROAS ในทางกลับกัน หากเพิ่มงบประมาณก็มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้น
ไม่แนะนำให้เปลี่ยนค่าเป้าหมาย ROAS ในช่วงแรกของการเปิดแคมเปญ เนื่องจากระบบจะอยู่ระหว่าง Learning Phase เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ระบบเรียนรู้และปรับสมดุลการทำงานของแคมเปญให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผู้ขายจะได้รับแจ้งสถานะเมื่อแคมเปญออกจากช่วง Learning Phase ผ่านหน้า Ad Detail
หลังจากแคมเปญมีเสถียรภาพแล้ว ผู้ขายสามารถเลือกแก้ไขค่า ROAS เป้าหมายได้ อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะทำให้ระบบเข้าสู่ Learning Phase ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ระบบปรับการทำงานให้เหมาะสมกับค่า ROAS เป้าหมายที่แก้ไข
ทุกแคมเปญ GMV Max จะเป็นแคมเปญแยกกันและมี Campaign ID เฉพาะของแต่ละแคมเปญ อย่างไรก็ตาม Shopee จะสามารถนำข้อมูลการทำงานเดิมบางส่วนมาใช้ในการปรับประสิทธิภาพในช่วง Learning Phase ได้
ในช่วง Learning Phase แนะนำให้ผู้ขาย หลีกเลี่ยงการปรับแก้การตั้งค่าใด ๆ ภายใน 7 วันแรก หลังจากเริ่มแคมเปญ เพื่อให้ระบบสามารถเรียนรู้และค้นหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการบรรลุเป้าหมายของแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ขายสามารถดูผลการทำงานของแคมเปญ GMV Max ทั้งหมดได้ที่หน้า Product Ads Listing บนหน้า Shopee Ads Homepage จากนั้นกรองประเภทแคมเปญเป็น “GMV Max Auto Bidding” และ “GMV Max Custom ROAS”
โดยสามารถคลิกเลือกแคมเปญแต่ละรายการเพื่อดูรายละเอียดผลลัพธ์ได้ ทั้งนี้ตั้งแต่ ไตรมาส 2 ปี 2025 เป็นต้นไป ผู้ขายจะสามารถตรวจสอบค่าเป้าหมาย ROAS ของ GMV Max เปรียบเทียบกับค่า Actual ROAS ได้ง่ายขึ้นบนหน้า Ads Homepage
แนะนำให้รออย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ระบบทำการเรียนรู้และสิ้นสุดช่วง Learning Phase หลังจากเปิดแคมเปญใหม่
ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ขายอาจสังเกตเห็นความผันผวนของผลลัพธ์ได้ เนื่องจากระบบยังไม่มีข้อมูลคำสั่งซื้อที่สมบูรณ์ครบถ้วนภายใน 7 วัน ดังนั้นเพื่อให้ระบบรวบรวมข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในช่วงนี้
เมื่อมีคำสั่งซื้อสะสมมากขึ้น ระบบจะสามารถปรับผลลัพธ์ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น และมุ่งบรรลุเป้าหมาย ROAS ตามที่กำหนดไว้ในแคมเปญได้
หลักในการปรับประสิทธิภาพของแคมเปญ GMV Max คือการหาจุดสมดุลระหว่าง งบประมาณ และ เป้าหมาย ROAS โดยควรปรับในช่วงไม่เกิน ±20% ต่อครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเสถียรภาพของแคมเปญ
เนื่องจากระบบจะทำการปรับและประมูลราคาโฆษณาโดยอัตโนมัติ โดยอาจเสนอราคาสูงขึ้นในกลุ่มผู้ชมคุณภาพสูงหรือแหล่งทราฟฟิกที่มีโอกาสแปลงเป็นคำสั่งซื้อได้มากกว่า
ดังนั้น แนะนำให้ผู้ขายไม่ควรโฟกัสเฉพาะค่า CPC ของแคมเปญ GMV Max เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญ เช่น CPA หรือ ROAS เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญแทน
สาเหตุเกิดจาก ขอบเขตการวัดผลที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้โดยตรง
หน้านี้มีประโยชน์หรือไม่?
ตามค่าเริ่มต้น ทุกแคมเปญที่สร้างโดยเลือกสินค้าด้วยตนเอง (Manual Product Selection) และใช้โมเดล GMV Max จะเป็น GMV Max โดยผู้ขายสามารถเลือกกำหนดเป้าหมาย ROAS ได้ทั้งแบบ GMV Max Auto Bidding หรือ GMV Max Custom ROAS อย่างไรก็ตาม สินค้า 1 รายการจะไม่สามารถรันได้ทั้ง 2 รูปแบบพร้อมกัน ต้องเลือกใช้วิธีการเสนอราคาที่เหมาะสมตามความพร้อมของสินค้าและวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณา
GMV Max Auto Bidding : ระบบจะเป็นผู้ปรับการทำงานและประสิทธิภาพของโฆษณาให้โดยอัตโนมัติ
GMV Max Custom ROAS : ผู้ขายสามารถกำหนดเป้าหมาย ROAS สำหรับสินค้านั้น ๆ ได้เอง ทำให้สามารถควบคุมทิศทางและคาดการณ์ผลตอบแทนจากการโฆษณาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสขยายศักยภาพยอดขายได้มากขึ้นจากการเข้าถึงทราฟฟิกที่หลากหลายกว่า
GMV Max Auto Bidding เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มยอดขายสูงสุดโดยอัตโนมัติ โดยไม่กำหนดค่า Target ROAS เฉพาะเจาะจง
หากต้องการเพิ่มยอดขายสูงสุด พร้อมทั้งรักษาเป้าหมาย ROAS ตามที่กำหนดไว้ แนะนำให้ใช้ GMV Max Custom ROAS เป็นฟีเจอร์สำหรับแคมเปญ
GMV Max ช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงทราฟฟิกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการแสดงสินค้าให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเห็น และช่วยขยายศักยภาพการสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
GMV Max จะแสดงโฆษณาผ่านฟีดบนทราฟฟิกทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ซึ่งครอบคลุมทั้งพื้นที่ Search, Discovery, Video, Games และ Coins โดยผู้ขายไม่สามารถเลือกตำแหน่งในการแสดงโฆษณาได้เอง อย่างไรก็ตาม ระบบจะทำการปรับแต่งและเลือกตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย GMV Max ที่ตั้งไว้
ค่าการแนะนำ ROAS จะถูกปรับเฉพาะตามสินค้าที่เลือก โดยคำนวณจากข้อมูลเชิงแข่งขันของสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันภายใน Shopee รวมถึงพิจารณาจากประสิทธิภาพการขายย้อนหลังของตัวสินค้าและร้านค้าในการเสนอค่า Target ROAS ที่เหมาะสม
ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ขายใช้ค่าการแนะนำ ROAS ตามที่ระบบ Shopee กำหนดให้มากที่สุด เนื่องจากจากการเปรียบเทียบข้อมูลตลาดโดยรวม พบว่าผู้ขายที่เลือกใช้ค่า ROAS ตามที่ระบบแนะนำมักจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า ทั้งในด้านจำนวนทราฟฟิกและยอดสั่งซื้อเมื่อเทียบกับผู้ขายที่ไม่ได้ใช้ค่าที่แนะนำ
ผู้ขายสามารถกำหนดค่า Custom ROAS ได้ โดยควรอ้างอิงจากผลลัพธ์ ROAS ย้อนหลังของสินค้านั้นเป็นค่าพื้นฐานเริ่มต้นในการตั้งเป้าหมาย ROAS ใหม่ ทั้งนี้ โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ผู้ขายตั้งเป้าหมาย ROAS สูงกว่าค่าที่ระบบ Shopee แนะนำไว้เกิน 25%
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขายตั้งค่า ROAS ที่สูงเกินความเป็นจริง ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อพบว่าค่าที่กำหนดสูงกว่าค่าที่แนะนำอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อผู้ขายตั้งเป้าหมาย ROAS ในระดับสูง ระบบจะมีการควบคุมการใช้จ่ายอย่างเข้มงวดมากขึ้น และ GMV Max จะคัดเลือกพื้นที่แสดงโฆษณาอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพต่อยอดขายมากกว่าปริมาณส่งผลให้การใช้จ่ายถูกจำกัดลง และจำกัดศักยภาพในการสร้างยอดขายรวมของสินค้านั้น
ตัวอย่างเช่น
หากผู้ขายตั้งเป้า ROAS ที่ระดับ 14 ขณะที่ค่า ROAS เฉลี่ยที่ทำได้อยู่ที่ 10 ระบบ GMV Max จะทำงานอย่างระมัดระวังและคัดเลือกพื้นที่แสดงผลมากขึ้น เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย ROAS ที่สูงกว่าเดิมได้ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการแสดงโฆษณาและยอดเข้าชมลดลงตามไปด้วย และจำกัดโอกาสในการขยายยอดขายรวมของสินค้า
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเปิดใช้งาน GMV Max ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับทราฟฟิกหรือยอดสั่งซื้อในปริมาณสูงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากระบบจะให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ROAS ที่ตั้งไว้เป็นหลัก
สำหรับรายการสินค้าทั่วไป เช่น สินค้าใหม่ สินค้าที่มีกระบวนการตัดสินใจซื้อใช้เวลานาน หรือสินค้าที่มีงบประมาณโฆษณาต่ำ แนะนำให้ใช้การประมูลแบบ Auto Bidding เป็นหลัก เพื่อให้ระบบสามารถนำข้อมูลความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไปปรับแต่งช่วง ROI ที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการสร้างทราฟฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Shopee จะมีการเสนอค่า Target ROAS ให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับ เพื่อให้ผู้ขายสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม หากค่าที่แนะนำยังต่ำกว่าระดับที่ต้องการ ผู้ขายสามารถตั้งค่า Custom ROAS สำหรับแคมเปญได้ โดยสามารถดูแนวทางการตั้งค่า ROAS เป้าหมายในระดับที่เหมาะสมได้จากหัวข้อที่ 2 ข้างต้น
แนะนำให้ประเมินประสิทธิภาพในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โดยสังเกตผลการดำเนินงานรวมในช่วง 7-14 วัน และไม่ควรตัดสินใจจากความผันผวนของข้อมูลรายวัน โดยปกติแล้ว หลังจากเปิดใช้งานแคมเปญประมาณ 7 วัน ค่า ROAS ที่ทำได้จริงจะอยู่ในช่วง 80%-120% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้
หากผลลัพธ์ยังต่ำกว่าที่คาดไว้อย่างต่อเนื่อง ผู้ขายควรพิจารณาปรับตามสถานการณ์จริง ดังนี้
1) หลีกเลี่ยงการปรับ ROI บ่อยเกินไป: ควรจำกัดการปรับอยู่ที่ 1-2 ครั้งต่อวัน โดยแต่ละครั้งไม่ควรเพิ่มหรือลดเกิน 20% เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการทำงานของระบบ
2) ในช่วงโปรโมชั่น การปรับลดค่า ROI เป้าหมายลง จะช่วยกระตุ้นการเข้าชมและเพิ่มจำนวนคำสั่งซื้อได้มากขึ้น ทั้งนี้ ควรควบคุมความถี่และขนาดของการปรับให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
GMV Max สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งกับสินค้าประเภทใหม่และสินค้าหลัก โดยแนะนำให้เปิดใช้งานการโปรโมตแบบครอบคลุมทุกสินค้าบนแพลตฟอร์ม (ทั้งสินค้าหลัก/สินค้าทั่วไป/สินค้าใหม่) เพื่อรับประโยชน์จากทราฟฟิกบนแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่
ผู้ขายสามารถตั้งค่า GMV Max ให้กับสินค้าใด ๆ ได้ แม้ว่าสินค้านั้นจะมีโฆษณาอยู่
หากช่วงระยะเวลาแคมเปญของโฆษณาที่เปิดอยู่มีการทับซ้อนกัน ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือนให้ผู้ขายทราบว่า การเปิดใช้งาน GMV Max จะทำให้โฆษณาที่เปิดอยู่ของสินค้าดังกล่าวถูกหยุดโดยอัตโนมัติ
สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยกดปุ่ม “อัปเกรดเป็น GMV Max” ในหน้า Ads Listing ของแคมเปญนั้น
Entrypoint via Ads Listing Page
Entrypoint via Ads Detail Page
ผู้ขายสามารถปิดการใช้งาน GMV Max ได้โดยการกดหยุด หรือยกเลิกการตั้งค่าแคมเปญนั้น หลังจากนั้นผู้ขายสามารถสร้างโฆษณาใหม่สำหรับสินค้าดังกล่าวได้ตามต้องการ
สินค้าบางรายการอาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยในการโฆษณาของแต่ละประเทศ (เช่น หมวดหมู่ “สินค้าสำหรับผู้ใหญ่”) โดยแม้ว่าสินค้าดังกล่าวจะสามารถลงโฆษณาผ่าน GMV Max ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เป็นต้นไป แต่อาจมีการจำกัดการแสดงผลของโฆษณา ตามข้อกำหนดท้องถิ่นที่บังคับใช้อยู่
ระบบ GMV Max Auto Bidding จะประเมินผลลัพธ์เบื้องต้นแตกต่างกันไปตามงบประมาณที่กำหนดในแคมเปญ โดยระบบจะคำนวณช่วง ROAS ที่เป็นไปได้จากประวัติผลลัพธ์ ROAS ของสินค้านั้น ๆ และประสิทธิภาพระดับร้านค้าในปัจจุบันภายใต้งบประมาณที่ระบุ หากกำหนดงบประมาณต่ำ อาจส่งผลให้มูลค่า GMV ต่ำลง และจำกัดโอกาสในการสร้าง ROAS ในทางกลับกัน หากเพิ่มงบประมาณก็มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้น
ไม่แนะนำให้เปลี่ยนค่าเป้าหมาย ROAS ในช่วงแรกของการเปิดแคมเปญ เนื่องจากระบบจะอยู่ระหว่าง Learning Phase เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ระบบเรียนรู้และปรับสมดุลการทำงานของแคมเปญให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผู้ขายจะได้รับแจ้งสถานะเมื่อแคมเปญออกจากช่วง Learning Phase ผ่านหน้า Ad Detail
หลังจากแคมเปญมีเสถียรภาพแล้ว ผู้ขายสามารถเลือกแก้ไขค่า ROAS เป้าหมายได้ อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะทำให้ระบบเข้าสู่ Learning Phase ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ระบบปรับการทำงานให้เหมาะสมกับค่า ROAS เป้าหมายที่แก้ไข
ทุกแคมเปญ GMV Max จะเป็นแคมเปญแยกกันและมี Campaign ID เฉพาะของแต่ละแคมเปญ อย่างไรก็ตาม Shopee จะสามารถนำข้อมูลการทำงานเดิมบางส่วนมาใช้ในการปรับประสิทธิภาพในช่วง Learning Phase ได้
ในช่วง Learning Phase แนะนำให้ผู้ขาย หลีกเลี่ยงการปรับแก้การตั้งค่าใด ๆ ภายใน 7 วันแรก หลังจากเริ่มแคมเปญ เพื่อให้ระบบสามารถเรียนรู้และค้นหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการบรรลุเป้าหมายของแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ขายสามารถดูผลการทำงานของแคมเปญ GMV Max ทั้งหมดได้ที่หน้า Product Ads Listing บนหน้า Shopee Ads Homepage จากนั้นกรองประเภทแคมเปญเป็น “GMV Max Auto Bidding” และ “GMV Max Custom ROAS”
โดยสามารถคลิกเลือกแคมเปญแต่ละรายการเพื่อดูรายละเอียดผลลัพธ์ได้ ทั้งนี้ตั้งแต่ ไตรมาส 2 ปี 2025 เป็นต้นไป ผู้ขายจะสามารถตรวจสอบค่าเป้าหมาย ROAS ของ GMV Max เปรียบเทียบกับค่า Actual ROAS ได้ง่ายขึ้นบนหน้า Ads Homepage
แนะนำให้รออย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ระบบทำการเรียนรู้และสิ้นสุดช่วง Learning Phase หลังจากเปิดแคมเปญใหม่
ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ขายอาจสังเกตเห็นความผันผวนของผลลัพธ์ได้ เนื่องจากระบบยังไม่มีข้อมูลคำสั่งซื้อที่สมบูรณ์ครบถ้วนภายใน 7 วัน ดังนั้นเพื่อให้ระบบรวบรวมข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในช่วงนี้
เมื่อมีคำสั่งซื้อสะสมมากขึ้น ระบบจะสามารถปรับผลลัพธ์ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น และมุ่งบรรลุเป้าหมาย ROAS ตามที่กำหนดไว้ในแคมเปญได้
หลักในการปรับประสิทธิภาพของแคมเปญ GMV Max คือการหาจุดสมดุลระหว่าง งบประมาณ และ เป้าหมาย ROAS โดยควรปรับในช่วงไม่เกิน ±20% ต่อครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเสถียรภาพของแคมเปญ
เนื่องจากระบบจะทำการปรับและประมูลราคาโฆษณาโดยอัตโนมัติ โดยอาจเสนอราคาสูงขึ้นในกลุ่มผู้ชมคุณภาพสูงหรือแหล่งทราฟฟิกที่มีโอกาสแปลงเป็นคำสั่งซื้อได้มากกว่า
ดังนั้น แนะนำให้ผู้ขายไม่ควรโฟกัสเฉพาะค่า CPC ของแคมเปญ GMV Max เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญ เช่น CPA หรือ ROAS เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญแทน
สาเหตุเกิดจาก ขอบเขตการวัดผลที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้โดยตรง
หน้านี้มีประโยชน์หรือไม่?
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะ