เคล็ดลับ

การตรวจสอบประสิทธิภาพโฆษณา Shopee Ads

การตรวจสอบประสิทธิภาพโฆษณา Shopee Ads


ความหมายของแต่ละตัวชี้วัดแตกต่างกันอย่างไร?


  1. Impression 

Impressionจะแสดงจำนวนครั้งที่โฆษณาของคุณถูกพบเห็นจากผู้ใช้งาน Shopee ยิ่งค่า Impression สูง แสดงว่า ผู้ใช้งานจะเห็นโฆษณาของคุณมากขึ้นและมีโอกาสที่เข้าถึงลูกค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น


  1. จำนวนคลิก (Click)

จำนวนคลิกหมายความว่า จำนวนที่ผู้ใช้งาน Shopee ที่คลิกที่โฆษณา และเข้าไปดูรายละเอียดสินค้า หลังจากที่เห็นโฆษณาปรากฏ


  1. อัตราการคลิก (CTR)

CTR วัดจาก เปอร์เซ็นต์ของจำนวนคลิกต่อจำนวนผู้เข้าชมสินค้าทั้งหมด

  1. ตัวอย่าง ถ้าโฆษณาของคุณมีค่า Impression 100 และมีจำนวนการคลิก (Click) 10 ครั้ง จำนวน CTR ของคุณคือ 10% ยิ่งค่า CTR สูงสะท้อนให้เห็นว่าสินค้าคุณได้รับความสนใจ


  1. คำสั่งซื้อ (Order)

จำนวนออเดอร์ คือ จำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมด ผ่านผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาของคุณ และสั่งซื้อสินค้าที่โฆษณาหรือสินค้าอื่นๆ ภายใน 7 วันหลังจากคลิกที่โฆษณา

  1. 1 คำสั่งซื้ออาจจะมีสินค้าหลายชิ้นได้
  2. จำนวนคำสั่งซื้อทั้งหมดจะบันทึกที่โฆษณาสุดท้ายที่ผู้ซื้อคลิก 


  1. สินค้าที่ขายแล้ว (Item sold)

สินค้าที่ขายแล้ว คือจำนวนสินค้าทั้งหมดที่ขายได้ทั้งผ่านผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่โฆษณาหรือสินค้าอื่นๆ ภายใน 7 วันหลังจากการลงโฆษณา 

  1. หนึ่งคำสั่งซื้อ สามารถมีสินค้าที่ขายแล้วหลายรายการได้ ตัวอย่าง ถ้าคุณโฆษณาเสื้อเชิ้ตและผู้ใช้งาน Shopee ซื้อเสื้อเชิ้ต 3 ตัว ในครั้งเดียว หมายความว่า จำนวนคำสั่งซื้อ (Order) จะเป็น 1 และ สินค้าที่ขาย (Item sold) จะเป็น 3 
  2. จำนวนสินค้าที่ขายแล้วจะบันทึกที่โฆษณาสุดท้ายที่ผู้ซื้อคลิก


  1. ยอดขาย (GMV)

ยอดขาย คือจำนวนรายได้ที่เกิดจากผู้ซื้อคลิกโฆษณาของคุณและสั่งซื้อสินค้าที่โฆษณาหรือสินค้าอื่น ภายใน 7 วันหลังจากคลิกที่โฆษณา

  1. โดยยอดคำสั่งซื้อจะบันทึกที่โฆษณาสุดท้ายที่ผู้ซื้อคลิก


  1. ค่าใช้จ่าย (Expense)

ค่าใช้จ่าย คือ จำนวนที่คุณจ่ายกับโฆษณา ทำให้มั่นใจด้วยว่าคุณใช้จ่ายไว้ในงบที่คุณต้องการ


  1. อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน (ROAS)

อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน (ROAS) คำนวณจากรายได้ที่เกิดจากการโฆษณาของสินค้าของร้านค้าเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับโฆษณา

  1. อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน (ROAS) = ยอดขาย ÷ ค่าใช้จ่าย
  2. ตัวอย่าง หากยอดขายจากคือ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายโฆษณาคือ 600 บาท ดังนั้น อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน (ROAS) = 5


  1. อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ACOS) 

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ACOS) คือการเทียบระหว่างค่าใช้จ่ายโฆษณาของคุณกับรายได้ที่เกิดจากการโฆษณา

  1. อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดําเนินงานต่อรายได้รวม = ค่าใช้จ่าย ÷ รายได้ x 100%
  2. ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายโฆษณาคือ 600 บาท และยอดขายที่ได้จากการโฆษณาคือ 3,000 บาท ดังนั้น อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมคือ 20%


  1. สินค้าที่ขายแล้ว (%CR)

สินค้าที่ขายแล้ว (%CR) คือจำนวนสินค้าที่ขายได้ต่อคลิก

  1. %CR = สินค้าที่ขายได้ ÷ คลิก x 100%


  1. ราคาต่อคลิก (CPC)

ราคาต่อคลิก (CPC) คือการคิดเงินค่าโฆษณา Shopee Ads

  1. ค่าโฆษณา = จำนวนครั้งที่ผู้ซื้อคลิกไปดูสินค้า x ราคาประมูลของคีย์เวิร์ดนั้น


  1. คำสั่งซื้อโดยตรง (Direct Orders)

ยอดขายตรง เกิดจาก ยอดขายของสินค้าที่ตัวที่ทำโฆษณา หลังจากผู้ซื้อคลิกโฆษณาของคุณภายใน 7 วัน เมื่อผู้ซื้อยืนยันคำสั่งซื้อ อาจจะมีจำนวนสินค้าที่ทำโฆษณาหลายตัวได้ 

  1. สำหรับ Shop Ads จะคำนวณคำสั่งซื้อที่จากผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาและซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้านภายใน 7 วัน


  1. สินค้าที่ขายแล้วโดยตรง (Direct Items Sold)
  2. จำนวนสินค้าที่ขายได้ของสินค้าตัวที่ทำโฆษณา หลังจากผู้ซื้อคลิกโฆษณาของคุณภายใน 7 วัน
  3. หนึ่งคำสั่งซื้อ สามารถมีสินค้าที่ขายแล้วหลายรายการได้ ตัวอย่าง ถ้าคุณโฆษณาเสื้อเชิ้ตและผู้ใช้งาน Shopee ซื้อเสื้อเชิ้ต 3 ตัว ในครั้งเดียว หมายความว่า คำสั่งซื้อโดยตรง (Direct Orders) จะเป็น 1 และ สินค้าที่ขายแล้วโดยตรง (Direct Items Sold) จะเป็น 3
  4. สำหรับ Shop Ads จะคำนวณคำสั่งซื้อที่จากผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาและซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้านภายใน 7 วัน


  1. ยอดขายโดยตรง (Direct Gross Merchandise Value [Direct GMV] )

ยอดขายโดยตรงเกิดจาก รายได้ที่เกิดจากสินค้าตัวที่ทำโฆษณา หลังจากผู้ซื้อคลิกโฆษณาของคุณภายใน 7 วัน 

  1. สำหรับ Shop Ads จะคำนวณคำสั่งซื้อที่จากผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาและซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้านภายใน 7 วัน


  1. ผลตอบแทนจากการลงทุนโดยตรง (Direct Return on Advertising Spend [Direct ROAS] )

อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนโดยตรง (Direct ROAS) คำนวณจากรายได้ที่เกิดจากสินค้าตัวที่ทำโฆษณาของร้านค้าเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับโฆษณา

  1. ผลตอบแทนจากการลงทุนโดยตรง (Direct ROAS) = ยอดขายโดยตรง (Direct GMV) ÷ ค่าใช้จ่าย (Expense)
  2. ตัวอย่าง หากยอดขายตรงคือ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายโฆษณาคือ 600 บาท ดังนั้น อัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนโดยตรง (ROAS) = 5
  3. สำหรับ Shop Ads จะคำนวณคำสั่งซื้อที่จากผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาและซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้านภายใน 7 วัน


  1. อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้โดยตรง (Direct Advertising Cost of Sales [Direct ACOS] )

อัตราส่วนค่าโฆษณาต่อยอดขายโดยตรง (Direct ACOS) คือการเทียบระหว่างค่าใช้จ่ายโฆษณาของคุณกับรายได้ที่เกิดจากสินค้าตัวที่โฆษณา

  1. อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้โดยตรง (Direct ACOS) =
  2. ค่าใช้จ่าย (Expense) ÷ ยอดขายโดยตรง (Direct GMV) x 100%
  3. ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายโฆษณาคือ 600 บาท และยอดขายที่ได้จากสินค้าตัวที่โฆษณาคือ 3,000 บาท ดังนั้น อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้โดยตรง (Direct ACOS) รวมคือ 20%
  4. สำหรับ Shop Ads จะคำนวณคำสั่งซื้อที่จากผู้ซื้อที่คลิกโฆษณาและซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้านภายใน 7 วัน


  1. ค่าใช้จ่ายต่อ 1,000 การแสดงผล
  2. ค่าใช้จ่ายต่อ 1,000 การแสดงผล = ค่าใช้จ่าย ÷ จำนวนการมองเห็น x 1000
  3. [สำหรับ Display Ads เท่านั้น] ค่าใช้จ่ายต่อ 1,000 การแสดงผล จะถูกกำหนดคงที่ เมื่อคุณจองแคมเปญ และคุณจะถูกเรียกเก็บเงินเฉพาะจำนวนที่แสดงผลจริง ขณะที่ Display Ads กำลังแสดงผลอยู่



อันดับโดยเฉลี่ยของโฆษณา Product Search Ads คืออะไร?


  1. อันดับโดยเฉลี่ยของโฆษณา

อันดับโดยเฉลี่ยของโฆษณาคือ อันดับของสินค้าโดยเฉลี่ยจากการทำโฆษณา เมื่อเทียบกับโฆษณาอื่นๆที่ปรากฏบนหน้าผลการค้นหา โดยนับเฉพาะอันดับของสินค้าที่มีการโฆษณาเท่านั้น 


หากอันดับโฆษณาคือ 8 โฆษณาของร้านค้าจะปรากฏลำดับโฆษณาที่ 8 ไม่ใช่ สินค้าตำแหน่งที่ 8 บนหน้าผลการค้นหา ยิ่งเลขอันดับโฆษณาที่ต่ำ หมายความว่าตำแหน่งของโฆษณาจะอยู่ในลำดับต้นๆ ตัวอย่าง อันดับโฆษณาที่ 1 จะมีตำแหน่งที่ดีกว่าอันดับโฆษณาที่ 2,3 และต่อๆไป 


จำนวน Product Impression จำนวนคลิกสินค้า (Product Click) และอัตราการคลิก (CTR) ของสินค้าของโฆษณาสำหรับ Shop Ads คืออะไร? 



  1. จำนวน Product Impression

จำนวน Impression คือ จำนวนที่ผู้ซื้อเห็นสินค้าในร้านหลังจากที่คลิกที่โฆษณา Shop Ads


ตัวอย่าง หากผู้ซื้อคลิกที่โฆษณา Shop Ads และเลื่อนดูสินค้า 10 ชิ้น ก่อนที่จะออกจากร้านค้าของคุณ สถิติจะแสดงว่าคุณจะมีจำนวน Impression เท่ากับ 10 จำนวน Impression ที่สูงแสดงถึงผู้ซื้อเข้าชมร้านค้าของคุณเยอะขึ้นหลังจากที่คลิก Shop Ads 


  1. จำนวนคลิกสินค้า (Product Click)

จำนวนคลิกสินค้าคือ จำนวนครั้งที่สินค้าภายในหน้าร้านของคุณถูกคลิกหลังจากที่ผู้ซื้อคลิกโฆษณา Shop Ads 


ตัวอย่าง หากผู้ซื้อคลิกที่โฆษณา Shop Ads และคลิกสินค้า 4 ชิ้นในหน้าร้านค้าของคุณ สถิติจะแสดงว่าคุณจะมี 1 จำนวนคลิกร้านค้า และ 4 จำนวนคลิกสินค้า จำนวนคลิกสินค้าอาจจะมีมากกว่าจำนวนคลิกร้านค้า เนื่องจากผู้ซื้ออาจคลิกที่สินค้ามากกว่า 1 ชิ้นหลังจากคลิกเข้ามาที่ร้านคุณ


  1. อัตราการคลิกโฆษณา Shop Ads (CTR)

อัตราการคลิกคือ อัตราส่วนของจำนวนคลิกเข้าชมสินค้าหลังจากที่ผู้ซื้อคลิกที่โฆษณาร้านค้าของคุณ

  1. CTR สินค้า = จำนวนคลิกสินค้า (Product click) ÷ Product Impression 
  2. ตัวอย่าง หากคุณมี Product impression 100 และจำนวนคลิกสินค้า (Product Click) 20
  3. ดังนั้น CTR สินค้า = 20% อัตราการคลิกโฆษณาที่สูง หมายความว่า โฆษณาของร้านค้ามีประสิทธิภาพที่ดี น่าดึงดูดต่อผู้ซื้อ


การเข้าถึง, จำนวนการเข้าชม และผู้เข้าชม สำหรับ Display Ads คืออะไร


  1. การเข้าถึง (Reach)

หมายถึงจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมด ที่เห็นโฆษณาแสดงผลของคุณในระหว่างระยะเวลาแคมเปญ

ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังดำเนินการแคมเปญในระยะเวลา 7 วัน และผู้ชมเดียวกันเห็นโฆษณาของคุณในวันที่ 1 และวันที่ 5 คุณจะได้ Reach เป็น 1 คน

  1. ผู้เข้าชม (Unique Visitors)

หมายถึงจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมดที่เข้าเยี่ยมชมหน้าร้านค้าและ/หรือหน้าสินค้าของคุณภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากคลิกที่Display Ads ของคุณ

  1. การเข้าชม (Page Views)

หมายถึงจำนวนการเข้าชมหน้าร้านค้าและ/หรือหน้าสินค้าของคุณทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากคลิกที่โฆษณาแสดงผลของคุณ

ตัวอย่างเช่น หากผู้ช็อปเลือกคลิกที่Display Ads ของคุณ และเข้ามายังหน้าร้าน และคลิกเพื่อดูรายละเอียดสินค้า คุณจะได้รับจำนวน Page Views 2 ครั้ง การมีจำนวน Page Views ที่สูงกว่าจำนวนผู้เข้าชมที่ไม่ซ้ำกัน (Unique Visitors) แสดงให้เห็นว่าผู้ช็อปได้สำรวจหน้าร้านค้าของคุณหลังจากได้เห็น Display Ads


สามารถเช็คการประสิทธิภาพของโฆษณาได้ที่ไหน?

คุณสามารถเช็คประสิทธิภาพการโฆษณาผ่านทาง Shopee app หรือ เข้าสู่ระบบ Seller center ใน เบราว์เซอร์ของคุณ 


  1. เช็คข้อมูลผ่านทาง Shopee App 
  2. กดที่ "ฉัน"
  3. กดไปที่ “ร้านของฉัน” ตรงมุมซ้ายบน
  4. เลื่อนลงมาที่ "Shopee Ads"
  5. ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกดูโฆษณาประเภทไหน กดไปที่ "Search Ads" หรือ "Discovery Ads", หรือ "Display Ads"
  6. กดไปที่สินค้าโฆษณาที่ต้องการดูข้อมูล เพื่อที่จะดูข้อมูลโฆษณาของสินค้าตัวนั้นๆ คุณยังสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการดูข้อมูลได้อีกด้วย



  1. เช็คข้อมูลผ่านทาง Seller Centre ในเบราว์เซอร์ของคุณ

หลังจากที่เข้าสู่ระบบ Seller center คลิกที่ "Shopee Ads" ที่อยู่ที่แถบฝั่งซ้ายของหน้าจอ


ฉันควรตรวจสอบข้อมูลโฆษณา Shopee Ads เมื่อไหร่และบ่อยแค่ไหน?

  1. สำหรับการทำโฆษณาครั้งแรก ควรดาวน์โหลดรายงานผลลัพธ์การทำโฆษณาหลังจากการทำโฆษณา 2 สัปดาห์ และไม่ควรทำการเปลี่ยนแปลง Keyword มากจนเกินไป
  2. ควรเช็คผลการโฆษณาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อปรับแต่งโฆษณาของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. หมั่นดาวน์โหลดและเก็บข้อมูลผลลัพธ์การทำโฆษณาอยู่เสมอ ร้านค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลย้อนหลังได้สูงสุด 90 วัน


Was this page helpful?

yes Yes
no No